รักไม่มีชนชั้น! หญิงสาวคบกับแฟนหนุ่ม 2 ปี โดยไม่รู้ว่าแท้จริงเขาคือใคร จนกระทั่ง..

โดย Caitlin และ Alex รู้จักกันผ่านเพื่อนในการแข่งม้าปี 2012 ที่กรุงเมลเบิร์น หลังจากนั้นมาเขาทั้งสองคนก็คบหากันแต่น่าแปลกใจมากที่ Caitlin กลับไม่รู้เรื่องราวเบื้องลึกของเขาไปมากนัก เพราะเมื่อถาม Alex ก็มักจะเลี่ยงอยู่เสมอ

ซึ่งช่วงแรกเธอคิดด้วยซ้ำว่าครอบครัวของเขาคงเปิดธุรกิจขายอาหารปลาทอด เพราะเขาบอกกับเธอว่าต้องกลับไปบ้านภายในหนึ่งปีเพื่อจัดการธุรกิจของครอบครัว ทำให้เธอไม่ได้เอะใจอะไร

แต่หลังจากผ่านไปหลายเดือนเธอกลับพบบทความเกี่ยวกับ Alex แฟนหนุ่มของเธอในนิตยสาร ทำให้เธอรู้ความจริงว่า แท้จริงแล้วนั้น Alex คือ Alexander Clifford ลูกชายของขุนนางชั้นสูงในประเทศอังกฤษ และเป็นทายาทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งตระกูลของ Alex มีมายาวนานตั้งแต่ปี 1086

แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความรักของ Caitlin และ Alex สิ้นสุดลง แต่พวกเขาทั้งสองคนกลับรักกันมากขึ้นด้วยซ้ำ และหลังจากนั้น 1 ปีพวกเขาทั้งสองคนก็หมั้นกันจากการสนับสนุนของครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย ตามด้วยจัดงานแต่งงานขึ้นตามมาติดๆ

ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวความรักโรแมนติกเหมือนเจ้าชายเจ้าหญิงจะเกิดขึ้นในโลกความเป็นจริงได้ อ่านแล้วฟินแทน Caitlin เลย...

ข้อมูลและภาพประกอบจาก http://www.liekr.com/post_134624.html

เรียบเรียงโดย Clipmass.com

เสียงประหลาดจากฟ้า ที่ได้ยินกันทั่วโลก ลามมาถึงไทยแล้ว!!! (คลิป)

จากที่เราเคยได้ยิน ข่าวมาสักระยะหนึ่งแล้วว่ามีเสียงประหลาด เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ก็ยังไม่มีใครหาสาเหตุหรือต้นตอของเสียงเหล่านั้นได้ว่าจากอะไร? ทำให้หลายคนนำไปโยงไปเรื่องราวเล้นลับว่าหรือนี่จะเป็นเสียงเตือนจากธรรมชาติที่ต้องการจะบอกเรา ถึงภัยที่อาจจะมาเยือน?
และล่าสุด  ก็มีคนได้ยินเสียงประหลาดนี้ ลามมาถึงประเทศไทยแล้ว โดยพบที่จังหวัดสระแก้ว และได้ยินกันทั่วทั้งจังหวัด

และในหลายพื้นที่ทั่วโลกก็ได้ยินเสียงประหลาดแบบนี้เช่นกัน..
เสียงประหลาดในโคลัมเบีย

เสียงประหลาดในเยอรมัน

ที่มา : news.boxza

แอลลี่ เจิน คุณแม่ลูกหนึ่งสุดสวย เน็ตไอดอลคู่ น่ารักทั้งแม่และลูก!

กำลังโด่งดังในความน่ารักของทั้ง คุณแม่ลูกหนึ่งและลูกสาวสุดน่ารัก คู่นี้เลย ชาวเน็ตต่างชื่นชอบในภาพที่ทั้งคู่ถ่ายคู่และหยอกล้อเล่นกัน เพราะทางคุณแม่ก็สวยแถมหุ่นแซ่บ ลูกสาวก็น่ารักน่าหยิก พูดเลยว่ายิ่งดูยิ่งเพลิน เจริญหูเจริญตาฝุดๆ
 ขนาดลูกหนึ่งแล้วแต่เธอก็ยังดูแลตัวเองได้ดีสุดๆ อย่างกับ พี่สาวกับน้องสาว  สาวคนไหนที่มีลูกแล้วหรือยังไม่มี ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะจ๊ะ ไม่งั้นอายคุณแม่ลูกหนึ่งคนนี้แย่เลยยย
















ที่มา :news.boxza

สุดอึ้ง !! เมื่อคุณยายวัย 92 ปี เข้าตรวจสุขภาพ ผลที่ออกมากลับทำให้แพทย์ช๊อก!

คุณยายวัย92ปี “Estela Melendez” เป็นชาวชิลีได้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ผลที่ออกมากลับทำให้ทางแพทย์ตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อผลตรวจออกมาว่า คุณยายท่านนี้ได้มีตัวอ่อนของทารกในมดลูก โดยมีลักษณะแข็งคล้ายหิน และมีน้ำหนักถึง 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่ตัวอ่อนกลายสภาพเป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเกิดจากขั้นตอนของการแท้งที่ไม่สมบูรณ์ หรืออาจจะเป็นเพราะทารกตายในครรภ์ก็เป็นได้

โดยคุณยายได้เผยว่า “เมื่อ 50 ปีก่อนเธอเป็นเนื้องอกในช่องท้องแต่ไม่ได้ผ่าตัดออก” จึงคาดว่าตัวอ่อนของทารกนี้จะอยู่ในท้องของคุณยายมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่ด้วยคุณยายท่านนี้มีอายุที่มากแล้วแพทย์จึงไม่ตัดสินใจผ่าเพื่อนำตัวทารกออกมา
โชคดีมากที่คุณยายท่านนี้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติดีโดยที่มีทารกอ่อนอยู่ในท้องมานานขนาดนี้ โดยที่คุณยายก็ไม่ได้สงสัยอะไรเลยเพราะคิดว่าเป็นพุงของเธอนั่นเอง

ที่มา : clipmass.com

ยืดอกรับ"ผมผิดเอง" พระเอก"โตโน่" ยืนยันเลิกรากับ"แตงโม"มา 2เดือนแล้ว (มีคลิป)

 เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 ก.ค. โตโน่ ภาคิน คำวลัยศักดิ์ ดารานักร้องชื่อดังเปิดแถลงข่าวกรณีที่อดีตแฟนสาวแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ กินยาหวังฆ่าตัวตายเพราะโรคซึมเศร้าและปัญาหความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับแฟนหนุ่ม ว่า ดีใจที่ดาราสาวปลอดภัยจากเหตุการณ์กินยาเกินขนาด ซึ่งตนก็ไม่ทราบมาก่อนว่าเขาจะทำ เพิ่งมาทราบจากอินสตราแกรม ทั้งหมดเป็นปัญหาจากความรัก หากให้ย้อนเวลากลับไปได้ก็จะรัก 

 แต่เรื่องของคนสองคนเวลาหนึ่งไม่ว่าเหตุผลอะไร ผลก็จบลงอย่างไม่สวยงามอย่างที่เราสองคนตั้งใจไว้ สาเหตุก็มาจากผม ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจก็เป็นความผิดของผมเอง ทั้งนี้ยอมรับว่าเลิกกันมาได้กว่า 2 เดือนแล้ว โดยพ่อของโม และแม่ของตนก็ไปพบบาทหลวง พูดคุยรู้เรื่องชัดเจน 

 ส่วนเรื่องข้าวของที่ไมได้ไปเอาก็เคยคุยแล้วว่า จะไปเอาเมื่อไหร่ก็บอก แต่ยังไม่อยากเข้าไปเพราะอาจทำให้เขาไม่สบายใจ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่เคยมีเหตุการณ์ที่โมโยนข้าวของตนทิ้งแน่นอน

ที่มา : khaosod

เอาแล้วไง ..และนี่คือสิ่ง “โตโน่” ทำ... หลังแตงโมกินยาฆ่าตัวตาย

หลังจากเหตุการณ์สุดช็อควงการไปเมื่อวานเย็นนี้ เมื่อสาว “แตงโม” กินยา เพราะเสียใจกับความรัก ล่าสุดทางด้าน หนุ่มโตโน่ยังไม่มีการออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อย่างใด มีเพียงความเคลื่อนไหวทาง IG เท่านั้น โดย จะจู่ๆ ยอดฟอลโล่อินสตาแกรมก็เปลี่ยนไป เจ้าตัวลบทุกคนที่เขาเคยติดตามเหลือไว้เพียง 1 ไอจี คือ @tonoandthedust เท่านั่น ส่วนด้านทวิตเตอร์ส่วนตัวอย่าง @mootono_pk ก็มีความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อ 18 ชม.ที่แล้ว เป็นการแชร์ผลงาน MV ของวงตัวเอง …

 

ล่าสุด แตงโม ฟื้นแล้ว นั่งรถเข็นมาแถลงต่อหน้าสื่อมวลชนด้วยตัวเอง

จากกรณีที่นางเอกสาวชื่อดัง "แตงโม ภัทรธิดา" กินยานอนหลับเกินขนาด จนต้องถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่รพ. โดยเพื่อนสนิท ระบุว่า สาเหตุจากดาราสาวเครียด หลังจาก โตโน่ ภาคิน ประกาศความโสด บนเวทีคอนเสิร์ต

ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. แตงโม ภัทรธิดา และนายโสภณ พัชรวีระพงษ์ คุณพ่อ ได้แถลงข่าว ณ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวอย่างคับคั่งเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการ

หมอ: อาการตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ความรุ้สึกตัว ชีพจรต่างๆอยู่ในเกณฑ์ปกติ พ้นขีดอันตราย เรื่องจากโมมีเรื่องโรคเกี่ยวกับด้านจิตใจอยู่แล้ว ดูแลรักษาต่อเนื่อง ถ้าระกต้องดูแลเรื่องจิตใจเปนหลัก อะไรที่กระทบต้องหลีกไป

แตงโม : เรามาในระดับฉุกเฉิน การรุ้สึกตัวน้อยมาก การทานยามากเกินขนาดทำให้รู้สึกตัวน้อยลง มีการกดทับของหัวใจอาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้ ประมาน10เม็ดที่ทาน ถือว่ามากทีเดียว ไม่สามารถให้ข้อมูลและตอบสนองอะไรได้

ถ้านำมาส่งรพ.ไม่ทันอาจเสียชีวิตจากการขาดอาการหายใจ

(ร้องไห้) ต้องขอประทานโทษทางรพ.ที่มีรูปหนูหลุดออกไปจากเพื่อนสนิท จริงๆไม่สามารถมีรูปแพร่ออกไปได้ ต้องขอโทษแทนเพื่อนหนูด้วย ตอนที่เข้ามาไม่รู้เรื่อง หรือรู้สึกตัวอะไรแล้ว เลยควบคุมไม่ได้ พอทราบข่าวก็ให้เพื่อนลบออกเพราะอาจจะเกิดผลเสียต่อรพ. ในเหตุผลนั้นเขาบอกว่าทนเห็นหนูในสภาพนี้ไม่ไหวเหมือนกัน เขาอยากจะให้เห็นในมุมอ่อนแอของหนูบ้าง

ส่วนเรื่องของตัวหนูเอง มีโรคประจำตัวอยุ่แล้ว การที่ได้รับคำพูดหรือเหตุการช่วงนี้ค่อนข้างจะหนักมาก ภายนอกดูเหมือนจะรับไหว แข็งแรง แต่ข้างในอ่อนแอมาก ไม่ค่อยได้เล่าให้ใครฟัง แม้แต่คุณพ่อ เลยมีวินาทีที่ขาดความยั้งใจ ขาดสติ จากการน้อยใจ ไม่อยากจะอยุ้รับจากอะไรหลายๆเรื่อง

หลายคนสันนิษฐานว่าเปนคำพุดของคุณโตโน่ในคอนเสิร์ตหรือเปล่า เป็นแค่เรื่องหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามันค่อนข้างคลุมเครือที่เราแยกกันอยู่

ก่อนที่เราจะห่างกัน มันมีเรื่องที่เราไม่เข้าใจกันบ้าง สุดท้ายก็เข้ากันไม่ได้ คุณโตโน่เลยตัดสินใจแยกออก แต่ของไม่ได้เอาไป หนูอยุ่ในที่เดิมๆ ต้องนอนคนเดียวในที่มีคนทุกข์ คนให้กำลังใจ ตั้งแต่มีข่าวว่าเราห่างกัน หนูก็พยายามติดต่อไปให้กำลังใจ แต่ว่าในส่วนของตัวหนู ต้องทนกับสภาพและอาการของหนู ที่ทำงานหนักไม่ต่สงกัน มันค่อยข้างหนักในชีวิตหนู หนูเป็นคนหนึ่งที่ตกปากรับคำที่จะแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง สุดท้ายชีวิตครอบครัวไม่ได้สวยงามอย่สงทร่คิด

คนที่ทุ่มเทให้ความรักมากๆมักจะผิดหวัง เวลาหนูส่งอะไรไปเขาอ่านแต่ไม่เคยตอบ 3เดือนได้แล้วมั้งคะ

แต่ทุกครั้งที่เราให้สัมภาษณ์ เราบอกห่างกันแต่ไม่มีใครพูดหย่าร้างจากปากเลย

เลยทำให้ไม่สามารถพูดตรงไหนได้ และไม่รู้จะตัดสินใจยังไง

ในชีวิตที่ผู้หญิงคนหนึ่งได้แต่งงานกับผู้ชาย และมอบชีวิตให้พระเจ้า พอเกิดการหย่าร้อง ผูเหญิงไม่สามารถจะมีคนใหม่ได้

หนูยึดถือในตรงนี้ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เชื่อมาตลอดว่าจะกลับมาเป็นครอบครัวได้อีก

ครอบครัวหนูเจออะไรหลายอย่าง แฟนคุณพ่อเพิ่งเสียพี่สาวไป และกำลังจะเสียคุณแม่

หนูไม่รู้จะมองไปทางไหน ที่มีคนคุยด้วย ปรับทุกข์ด้วย

หนูมีพระเจ้า มีเพื่อน มีพ่อ ที่ควรนึกถึง แต่ตอนนั้นหนูไม่ทันคิด

ถือว่าเป็นฝ่ายของโตโน่ที่ออกมาพูดถึงเรื่องแตงโมเป็นคนแรก คือ "น้องต้องตา" น้องสาวของโตโน่ ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กระบายความในใจ ว่า "ปวดประสาท มีแต่คนมาถาม ด่ากันสนุกสนาน คือพี่โน่ทำไรผิด คิดว่าพี่โน่อยากให้พี่โมตายเหรอ ไม่มีใครอยากให้ใครตายหรอกเว้ย ถ้าว่าเรื่องพูดว่าโสด ตอนพี่โมประกาศว่าโสดทำไมพี่โน่เงียบ ตั้งแต่เป็นน้องมาเห็นแต่พี่โน่ต้องเป็นคนอดทน

 ทุกครั้งที่มีข่าวไรพี่โน่ก็โดนตลอด ที่ผ่านมาเคยมีข่าวไรออกจากทางพี่โน่บ้างมั้ย ถ้าจะว่าไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิง พี่โน่ก็เป็นแฟนที่ดีมาตลอดนะ ไม่เห็นเคยทำเรื่องให้ฝ่ายหญิงเสียหาย ตอนคบกันมีร้อยพี่โน่ให้เกินที่ร้อย เลิกกันพี่โมไม่ได้เสียใจคนเดียว พี่โน่ก็เสียใจ คนไปให้กำลังใจพี่โมก็เป็นเรื่องดี แต่มาด่าพี่โน่ทำไม รู้เหรอว่าที่ผ่านมาพี่กุต้องเจออะไรบ้าง

 เรื่องโรคซึมเศร้าน่ะแม่ต้องตาก็เป็น ช่วงที่โดนข่าวแรง ๆ หลาย ๆ เรื่องที่พี่โน่ไม่ได้เป็นคนสร้าง แต่ต้องมาโดนไปด้วย แม่ก็ต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วครอบครัวเราเคยทำให้เป็นเรื่องมั้ย เคยทำให้ใครต้องไปด่าใครมั้ย ครอบครัวเขาก็ต้องเป็นห่วงลูกเขา ครอบครัวเราก็ต้องเป็นห่วงคนของตัวเองเหมือนกัน #ไม่รู้หรอกว่าเรื่องจริงเป็นไง ไม่ได้คุยกับพี่โน่เลยสักคำที่พูดมา ทั้งหมดคือความรู้สึกของต้องตาคนเดียวล้วนๆ"

ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก น้องต้องตา

จีนจัดเต็ม! เปิด "สะพานสุดเสียว" สูง 980 ฟุตเหนือแคนยอนทำจากแก้ว!

หากคุณกลัวความสูง สถานที่นี้ไม่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน อยู่ห่างๆ เลยจะดีที่สุด เพราะนี่คือ The Zhangjiajie Grand Canyon skywalk ที่จะเป็น สะพานสุดเสียว เหนือแคนยอน สูงเหนือพื้น 980 ฟุต และความยาวกว่า 400 เมตรเชื่อมสองหน้าผา ซึ่งถือเป็นการทำลายสถิติ สะพานแก้วที่ยาวที่สุด และสูงที่สุดในโลกไปแล้ว ซึ่งสะพานอันน่าหวาดเสียวนี้ จะเปิดให้บริการแก่สาธารณชนในเดือนกรกฎาคมนี้

นี่คือภาพชัดๆ ของสะพานที่จะเชื่อมสองหน้าผาสูงชันเข้าด้วยกัน ด้านล่างเป็นแคนยอน มองดูแล้ว เสียวแทนสุดๆ สำหรับผู้กล้าที่จะเดินบนสะพานสูงแบบนั้น

สะพานแห่งนี้ประเมินไว้ว่า สามารถรองรับคนได้มากกว่า 800 คนในคราวเดียว และมีการแพลนที่จะจัดการเดินแบบแฟชั่นโชว์กันบนสะพานแห่งนี้อีกด้วย

ความยาวโดยละเอียดของสะพานนี้คือ 0.27 ไมล์ หรือกว่า 400 เมตร ทอดยาวออกไป เห็นวิวอันสวยงามของมณฑลหูนาน ส่วนความกว้างของตัวสะพานอยู่ที่ 19 ฟุต มีความแข็งแรงมากพอที่จะรับคนได้หลายร้อยคน

ความงามของวิวที่คุณจะได้เห็นหากยืนบนสะพานนั้น คือ วิวที่ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง Avatar ในการนำไปสร้างเป็นดาวเคราะห์ Pandora นั่นเอง ส่วนสะพานแห่งนี้ ออกแบบโดย Haim Dotan นักออกแบบชื่อดังจากอิสราเอล ซึ่งออกแบบสะพานแห่งนี้จนทำให้ สะพานเหนือ Gran Canyon ของอเมริกา หรือ Grand Canyon Skywalk ที่สูงเพียงแค่ 718 ฟุต กลายเป็นเตี้ยไปเลยทีเดียว

ไม่อยากนึกภาพเลยว่าหากมีการเดินแบบกันบนสะพานแห่งนี้ จะงดงามอลังการมากเพียงใด

และนี่คือหนึ่งในภาพวิวทิวทัศน์ของ Zhangjiajie national park ที่เขาว่ากันว่า ควรไปสักครั้งในชีวิต กับยอดหน้าผา ที่เรียงรายกันกว่า 3,000 ยอด และกลายเป็นต้นแบบของดาวเคราะห์ Pandora ในเรื่อง Avatar

ทั้งนี้ ได้ข่าวมาว่า หากใครที่ชื่นชอบความสูงมากๆ จะมีบริการบันจีจั้มพ์ ให้ท้าทายความกล้ากันอีกด้วย ซึ่งจะกลายเป็นบันจีจั้มพ์ที่สูงที่สุดในโลกเอาชนะ บันจีจัมพ์ของ Macau Tower ซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 764 ฟุตกันไปเลย

นอกจากนี้ยังไม่พอ เมื่อเดือนที่แล้ว ประเทศจีน ก็ได้มีการเปิดตัวสะพานที่หวาดเสียวไม่แพ้กันอีกด้วย โดยอยู่ที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ที่เมืองฉงชิ่ง ซึ่งเป็นทางเดินที่ยื่นออกมา 87.5 ฟุตจากหน้าผา

หากไปยืนบนนั้น คุณจะยืนอยู่เหนือหุบเขาที่ความสูง 2,350 ฟุต ราวกับว่าคุณเดินอยู่บนก้อนเมฆเลยทีเดียว

อาจจะต้องต่อคิวกันหน่อยนะ เพราะตอนนี้สถานที่แห่งนี้เป็นที่นิยมแบบสุดๆ เลยล่ะ เพราะจำกัดคนเข้าไปได้แค่ทีละ 30 คนเท่านั้น

ที่มา  clipmass

"เด็กเกิดมาได้อย่างไร...?" หนังสือเด็กสุดแปลก (ที่อธิบาย"ขั้นตอนการมีลูก"ได้น่ารักสุดๆ)

เรียบเรียงโดย Clipmass.com

โดยหนังสือดังกล่าวเป็นหนังสือเด็กสุดแปลกที่สอนเรื่องราวเกี่ยวกับการมีลูก เรื่อง "How a baby is made" หรือทำอย่างไรให้มีลูก...? ซึ่งเขียนโดย Per Holm Knudsen ในปี 1975 และมีคนเจอหนังสือเล่มนี้วางขายใน Amazon ในราคาเพียง 85 เหรียญเท่านั้น...

ซึ่งเนื้อหาภายในเล่มนั้นก็จะบอกเรื่องราวว่า "เด็กเกิดมาได้อย่าง...?" โดยมีทั้งภาพประกอบแบบการ์ตูน และเนื้อหาคอยบรรยายไว้ โดยเนื้อหาและภาพประกอบนั้นไม่ได้ติดเรทแต่อย่างใด แต่ออกมาทางน่ารักและเน้นให้เด็กเข้าใจได้ง่าย (ทั้งๆ ที่เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่อง 18+ ที่เด็กไม่ควรรู้ด้วยซ้ำไป) ซึ่งมันแปลกตรงที่ผู้เขียนกลับสร้างสรรค์ให้เรื่องแบบนี้ออกมาน่ารักเหมาะกับเด็กแบบสุดๆ...

รูปร่างหน้าตาของหนังสือเล่มนี้

พ่อกับแม่รักกันและช่วยกันสร้างเด็กขึ้นมา

เมื่อพ่อและแม่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า จะเห็นได้ว่าตรงหว่างขาของพ่อและแม่มีอวัยวะที่แตกต่างกัน โดยเรียกว่า....

บรรยายขั้นตอนการปั๊มลูก

และเมื่อถึงขั้นตอนการปั๊มลูก ก็....

หลังจากนั้นแม่ก็จะมีเด็กอยู่ในท้อง ซึ่งทำให้พ่อและแม่มีความสุขมาก...

เด็กในท้องแม่โตขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้ท้องของแม่มีขนาดใหญ่ขึ้น

และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

และเมื่อครบกำหนด 9 เดือน

แม่ก็พร้อมที่จะให้กำเนิดลูก

ดังนั้นพ่อและแม่จึงมาโรงพยาบาล เพื่อทำการคลอดลูก

โดยในการคลอดลูกนั้น แม่ต้องขึ้นไปนอนบนเตียง

และหัวของเด็กก็จะออกมาจากร่างกายของแม่

ต่อมาส่วนแขนของเด็กก็จะตามออกมา

หลังจากนั้นเด็กก็จะออกมาทั้งตัว และได้พบหน้าพ่อและแม่ ทำให้พวกเขามีความสุขมาก

หลังจากนั้นลูกก็จะเริ่มหิว ดังนั้นลูกจึงต้องกินนมแม่

และสุดท้ายพ่อและแม่มีความสุขมาก เพราะมีสมาชิกใหม่ในครอบครัว โดยจะมีเพื่อนและญาติคนอื่นๆ มาเยี่ยมทารกกันเรื่อยๆ

เป็นหนังสือที่น่ารักมากเลยทีเดียว ซึ่งพ่อแม่หลายคนอาจจะเจอคำถามน่ารักๆ ของเด็กว่า "หนูเกิดมาได้ไง" ไม่ต้องกังวลและดูหนังสือเล่นนี้ แล้วก็อธิบายอย่างน่ารักๆ ตามหนังสือไป โดยไม่ต้องกังวลว่ามันจะติดเรทหรือไม่เหมาะสม...

ข้อมูลและภาพประกอบจาก