Tuesday, April 28, 2015

หมอเศร้าใจ! เด็กม.2ท้อง4เดือนมาฝากครรภ์ เล่าทั้งน้ำตาว่าอยู่คนเดียว พ่อแม่แยกทาง ทิ้งแค่เงินไว้ให้

เรื่องการตั้งครรภ์ในวัยเรียน  บางทีอาจจะเป็นเรื่องชาชินไปสังคมไทยไปซะแล้ว  ตราบใดที่พ่อแม่ยังไม่เปิดอกคุยกับลูก และสอนเขาให้รู้จักรัก และรู้จักการป้องกันนะคะ แต่เรื่องราวของเด็กสาวหลายคนก็เศร้าใจไปกว่านั้น  เมื่อพวกเธอเกิดในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์  กลายเป็นการตอกย้ำความรู้สึกอ้างว้าง จนต้องหาอะไรมาแทนที่ สิ่งสิ่งนั้นจึงไม่พ้นSex ยาเสพติด หรือการเที่ยวเตร่
นำมาซึ่งปัญหาวัยรุ่นกวนเมือง และปัญหาสำคัญอย่างการตั้งครรภ์ในวัยเรียน เหมือนดังเช่นที่แพทย์จะต้องเจอตลอดมา ทั้งการฝากครรภ์ หรือแม้แต่ต้องดูแลอาการตกเลือด จากการทำแท้งคลินิกเถื่อน

หมอเศร้าใจ! เด็กม.2ท้อง4เดือนมาฝากครรภ์ เล่าทั้งน้ำตาว่าอยู่คนเดียว พ่อแม่แยกทาง ทิ้งแค่เงินไว้ให้


วันนี้ตรวจคนไข้ เจอวัยรุ่นอายุ 14 ปี ท้อง น่าสงสารมาก
 เด็กผู้หญิง อายุ14 ปี  ตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน เรียนไม่จบชั้นม.2 แฟนเรียนอยู่ชั้นม.5 ปัจจุบันมีปัญหากับพ่อแม่แฟน ไม่เชื่อว่าท้อง อยู่ตัวคนเดียวกับพ่อ ซึ่งทำงานขับรถบรรทุก จะกลับเข้าบ้านประมาณ 3 สัปดาห์ต่อครั้ง ทิ้งเงินไว้ให้เด็กซื้ออาหารกินเองกับใช้จ่าย พ่อแยกทางกับแม่
ปัจจุบันแม่ได้สามีใหม่ และกำลังท้องกับสามีใหม่ได้ 6 สัปดาห์  แต่เพิ่งหนีออกจากบ้านได้ 1 สัปดาห์ เนื่องจากสามีใหม่พาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน แม่มีโรคประจำตัวเป็นทั้งหัวใจล้มเหลว ซึมเศร้า เบาหวาน ซึ่งต้องมารับยาฉีดอินซูลินที่รพ.ทุกวัน วันละสองรอบ
 เด็กตัดสินใจตั้งครรภ์ต่อ บอกว่าจะดูแลลูกเอง  ทั้งที่แม่ก็กำลังท้องอยู่เหมือนกัน แถมอยู่บ้านคนเดียว แถมหลังคลอดเด็กจะไม่ฝังยาคุมกำเนิด เพราะว่าพ่อไม่ให้ทำ และบอกว่าอยู่คนละบ้านกับแฟน
ขอเป็นกำลังใจให้กับเด็วสาวที่ต้องประสบปัญหาครอบครัวทุกคนนะคะ เพราะเราไม่เลือกไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะใช้ชีวิตและกำหนดชีวิตของตัวเองในอนาคตได้ และขอเป็นกำลังใจให้กับทีมแพทย์ ให้รับมือกับเหตุการณ์นี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้กับน้องๆไปพร้อมกันนะคะ

ที่มา : http://news.boxza.com/view/27672

สุดสลด! โจรชั่วฆ่าข่มขืนเด็ก 1 ขวบ ที่แชร์กันสนั่นที่แท้คือผู้ชายคนนี้ แต่ก็ยังเลวอยู่ดี


สุดสลด! โจรชั่วฆ่าข่มขืนเด็ก 1
หลังจากเมื่อวานได้มีการแชร์รูปเด็กอายุ 1 ขวบ โดนข่มขืน และให้แชร์กันช่วยตามหาคนร้าย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์กัมพูชา ว่าชายผู้ก่อเหตุได้ถูกจับและรุมประชาทัณฑ์อย่างสาสมไปแล้ว
โดยเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นที่ประเทศกัมพูชา ไม่ใช่เกิดที่ประเทศไทยแต่อย่างใด  
และถึงไม่ว่าจะไม่ใช่ประเทศไทย ก็อยากจะขอฝากทุกท่านดูแลลูกหลานท่านให้มากขึ้น เพราะทุกวันนี้สังคมน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าใครกำลังคิดอะไร แม้แต่คนหน้าตาดีแต่งตัวดีก็ยังทำเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ ดังนั้นพวกเราช่วยกันเป็นหูเป็นตาและระมัดระวังตัวเองให้ดี น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดครับ
ข้อมูลจาก:

พ่อใจสลาย น้องฟ้า นักเรียนกตัญญู ถูกโจรใต้ยิงตายพร้อมแม่




   ยะลา - เหตุสลดหลังนักเรียนสาววัย 17 ปีถูกยิงเสียชีวิตพร้อมผู้เป็นแม่ เผยประวัติเป็นนักเรียนดีเด่น-ยอดกตัญญู ด้านผู้เป็นพ่อใจสลาย เตรียมตัวหนีไฟใต้ย้ายกลับไปอยู่เชียงใหม่
       
       วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ตามประกบยิงนางบูเซอะ มาเยอะ อายุ 48 ปี และ น.ส.บูยือ มาเยอะ บุตรสาว อายุ 17 ปี สองแม่ลูกชาว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จนเสียชีวิตขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากซื้อเสื้อผ้านักเรียนในตลาด จ.ยะลา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณ ม.5 บ้านคลองน้ำขุ่น อ.บันนังสตา จ.ยะลา คนร้ายก็ใช้อาวุธปืนยิงทั้งสองแม่ลูกจนเสียชีวิตก่อนจะขโมยรถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ เมื่อวันศุกร์ที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา
         
        โดยศพของทั้งสองแม่ลูกถูกตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา มีนายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต เป็นผู้จัดการงานเรื่องพิธีศพให้กับทั้งสองแม่ลูก จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.บูยือ มาเยอะ วัย 17 ปีนั้น เป็นนักเรียนชั้น ม.3 และกำลังจะศึกษาต่อในชั้น ม.4 ที่โรงเรียนธารโตวัฒนวิทย์ อ.ธารโต จ.ยะลา เป็นนักเรียนดีเด่นได้รับรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันแปรรูปอาหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคใต้ ครั้งที่ 64 ประจำปีการศึกษา 2557 ซึ่งขณะถูกคนร้ายยิง น.ส.บูยือ หรือ น้องฟ้า เพิ่งไปซื้อเครื่องแบบนักเรียนให้น้องชายและตนเอง เพราะกำลังจะขึ้นชั้น ม.4 ช่วงเปิดเทอมนี้ โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ไปพร้อมกับผู้เป็นแม่
       
       นายอาชา มาเยอะ ซึ่งสูญเสียทั้งภรรยาและบุตรสาวพร้อมๆ กัน กล่าวว่า ตนเองย้ายจากจังหวัดเชียงใหม่มาทำงานรับจ้างกรีดยางใน อ.ธารโต เป็นเวลา 11 ปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร ในวันเกิดเหตุพอรับรู้ข่าวก็ใจสลายว่าทั้งภรรยาและลูกสาวคนโตไม่กลับมาแล้ว ลูกชายคนเล็กก็ถามว่า แม่กับพี่เกิดอะไรขึ้นให้พ่อโทรหา แต่ตนเองก็บอกว่าเดี๋ยวแม่กับพี่ก็กลับมา ตอนนี้ตนเองคิดว่าไม่เคยทำร้ายใครทำไมจึงมาเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับลูกและเมียของตนเอง โดยภายหลังจากเสร็จสิ้นงานศพ คงจะย้ายกลับไปอยู่เชียงใหม่แล้ว เพราะเหลืออยู่เพียงสองคนกับลูกชายเท่านั้น
         
       ด้านนางเรขา รัตนซ้อน ครูประจำชั้น ม.3 ของน้องฟ้า เล่าให้ฟังว่า น.ส.บูยือ มาเยอะ วัย 17 ปีนั้น เป็นนักเรียนชั้น ม.3 และกำลังจะศึกษาต่อในชั้น ม.4 ที่โรงเรียนธารโตวัฒนวิทย์ อ.ธารโต จ.ยะลา แม้จะเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่เธอจะอาศัยความขยัน และอัทธยาศรัยที่ดีกับครูและเพื่อน ๆ จนเป็นนักเรียนดีเด่นได้รับรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันแปรรูปอาหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคใต้ ครั้งที่ 64 ประจำปีการศึกษา 2557 และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นกับนักเรียน ครู และเพื่อนนักเรียนก็รู้สึกเสียขวัญ และกลัวกับเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิด
   
       ขณะเดียวกับที่นายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต จ.ยะลา เปิดเผยว่า ว่าน้องฟ้าเป็นเด็กนักเรียนที่ช่วยเหลือกิจกรรมของอำเภอในงานบุญต่างๆ โดยเข้าร่วมเป็นแดนเซอร์ในวงดนตรีของ อส.สัมพันธ์ ที่ตนเองจัดตั้งขึ้นเพื่องานมวลชน น้องฟ้าเป็นคนที่เก่งและรักเหมือนลูกบุญธรรม ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ตนเองก็ดำเนินการจัดการเรื่องงานศพให้กับทั้งสองแม่ลูกเนื่องจากเป็นครอบครัวที่ยากจน
       
       โดยวันนี้ได้มีพิธีฌาปนกิจศพน้องฟ้าและผู้เป็นแม่ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลามาเป็นประธาน และมีเพื่อนๆ ครูอาจารย์ ญาติๆ มาร่วมพิธีเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ผู้คนที่รู้เรื่องราวชีวิตของน้องฟ้ารู้สึกเศร้าสลดกับชะตากรรมของเธอที่มาอาศัยอยู่ใน อ.ธารโต ก็เพราะตามพ่อกับแม่ที่เร่ร่อนมารับจ้างกรีดยาง โดยครอบครัวเพิ่งจะได้งานใหม่ที่ ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งน้องฟ้าเป็นเด็กตั้งใจใฝ่เรียน ขยันขันแข็ง กตัญญู ชอบช่วยเหลือผู้คนและช่วยงานราชการ พ่อแม่คาดหวังว่าจะเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวและน้องๆ แต่ก็ต้องมาจบชีวิตลงเสียก่อน
ข้อมูลจาก:

ใสๆ วัยรุ่นชอบ "สาวไทยขอโชว์" เต็มๆ ทั้งภาพและเสียง แจ่มขนาดนี้เอาไปเลยเต็ม 100 !!! (มีคลิป)









Monday, April 27, 2015

สยอง! หนุ่มอังกฤษวัย 30 ปี มีแฝดปรสิตคล้ายเอเลี่ยนที่หน้าท้อง


สยอง! หนุ่มอังกฤษวัย 30 ปี มีแฝดปรสิตคล้ายเอเลี่ยนที่หน้าท้อง : ภาพประกอบข่าวจากภาพยนตร์เรื่อง Alien ปี 1979 

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดเรื่องราวสุดประหลาดขึ้นกับ เกวิน ไฮแอท (Gavin Hyatt) หนุ่มช่างประปา วัย 30 ปี จากเมืองวิทนีย์ (Oxfordshire) ในมณฑลอ๊อกซฟอร์ดเชอร์ (Oxfordshire) ของอังกฤษ ซึ่งได้เปิดเผยว่า ตนเองมีติ่งเนื้อ หรือ ก้อนเนื้อประหลาดยื่นออกมาจากหน้าท้องของเขาตั้งแต่เกิด และเขาได้ตั้งชื่อให้กับเจ้าก้อนเนื้อดังกล่าวว่า ลิตเติ้ล เกฟ (little Gav) แม้ว่าผู้คนส่วนมากจะมองว่ามันเป็นอะไรที่แปลกประหลาดก็ตาม

     ต่อมานายไฮแอทได้เข้ารับการตรวจก้อนเนื้อดังกล่าว หลังจากที่เขามีอาการเจ็บปวดเหมือนมีอะไรเสียดแทงรอบๆก้อนเนื้อที่ยื่นออกมาจากหน้าท้องของเขา ซึ่งแพทย์ที่ตรวจดูอาการก็ถึงกับประหลาดใจ เมื่อได้เห็นก้อนเนื้อแฝดปรสิตดังกล่าว แถมยังบอกอีกว่าตอนแรกเขาแทบไม่เชื่อว่านายไฮแอทจะมีเจ้าก้อนเนื้อประหลาดนี้อยู่ที่หน้าท้องจริงๆ แต่เห็นมันแล้วกลับทำให้เขานึกถึงเอเลี่ยนที่โผล่ออกมาจากท้องของเคน (Kane) ในหนังเอเลี่ยน (Alien) ปี 1979

     สำหรับก้อนเนื้อดังกล่าวนั้นถูกวินิจฉัยว่าน่าจะเป็นฝาแฝดที่หยุดการเจริญเติบโตในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ สามารถวัดความยาวได้ประมาณ 4 ซม. ทั้งนี้มีรายงานว่านายไฮแอทต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในโรงพยาบาลก่อนที่เขาจะได้รับอนุญาติให้ออกจากโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ซึ่งจากกรณีดังกล่าวนั้นคลายกับเรื่องราวของ Yamini Karanam นักศึกษาสาว วัย 26 ปี จากสหรัฐอเมริกา ที่มีฝาแฝดฝังอยู่ในสมอง จนกระทั่งได้รับการผ่าตัดไปเรียบร้อยแล้ว อ่านข่าว สุดสยอง! หมอมะกันพบฝาแฝดปีศาจในสมองนักศึกษาป.เอก

ที่มา : 
http://news.thaiza.com/news/312693/

คุณลุงคนนี้ทำอาชีพที่ใครหลายคนอิฉฉา มาดูว่ามันคืออาชีพอะไร (คลิป) 18+

หนุ่มๆหลายคนคงจะอยากรู้แล้วหล่ะว่า คุณลุงคนนี้ทำอาชีพอะไร ถึงได้มีสาวๆมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาหาถึงที่บ้าน....อาชีพของแกก็คือหมอนวดแผนโบราญนั้นเอง ชมจากคลิปกันได้เลย





ที่มา : http://news.thaiza.com/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%89%E0%B8%89%E0%B8%B2-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/311608/

โรคที่คนไทยป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปี ล่าสุดเดินถนนกลางกรุง 6 หมื่นคน ชายรักชายนำโด่ง




กทม.หวั่นเมืองหลวงกลับมาเผชิญกับปัญหา "เอดส์" อีกครั้ง หลังพบมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี ในปี 58 นี้ที่ยังมีชีวิตอยู่สูงถึง 6.1 หมื่นคน โดยมี "กลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย" นำโด่ง 60% เหตุสภาพแวดล้อมยั่วยุ
นายโกวิท ยงวานิชกิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.เตรียมจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อยุติปัญหาเอดส์ของกทม.ประจำปี 2560 โดยจะจัดทำแผนงาน/โครงการและจัดทำกรอบงบประมาณประจำปี 2560 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์กรุงเทพมหานคร ในการมุ่งยุติปัญหาเอดส์ หรือลดให้เป็นศูนย์ คือลดการติดเชื้อ ลดการตาย ลดการตีตรา ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์ปัญหาเอดส์ในพื้นที่กรุงเทพฯ อาจจะต้องกลับมาเผชิญปัญหาเอดส์อีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายพนักงานบริการ กลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด กลุ่มเด็กและเยาวชน เนื่องจากปัจจุบันสภาพแวดล้อมต่างๆ ยั่วยุให้เกิดปัญหาทางเพศและการใช้สารเสพติดได้ง่ายขึ้น จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ ทั้งภาครัฐเอกชน ประชาสังคม และประชาชน ในการร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์อย่างจริงจัง เพื่อให้การดำเนินงานด้านต่างๆ ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวี ได้อย่างมีประสิทธิภาพมุ่งสู่การยุติปัญหาเอดส์ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้จากการคาดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี (HIV) ใน ปี 2558 ในพื้นที่กรุงเทพฯคาดว่า มีผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ 61,109 คน เสียชีวิต 3,341 คน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับยาต้านไวรัส 24,871 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,771 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย 1,066 คน คิดเป็นร้อยละ 60 รองลงมา ภรรยาติดเชื้อจากสามี 259 คน คิดเป็นร้อยละ 15 และกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด 162 คน คิดเป็นร้อยละ 9.1 ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นกลุ่มเยาวชนอายุน้อยกว่า 25 ปี 974 คน คิดเป็นร้อยละ 53.4.
ข้อมูลจาก:

Sunday, April 26, 2015

สุดยอด!! "ทุเรียนน้ำ" พิฆาตมะเร็ง การันตีโดย! "มหาวิทยาลัยคาทอลิก เกาหลี" (ชมคลิป)










สุดทึ่ง!! อดีตนายก อบต. อาชีพทนายความ ป่วยหนักแพทย์ระบุเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย จนกระทั่งน้องชายแนะนำให้ดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศวันละ 3 เวลาเพียง 20 วัน หมออึ้ง!! ตรวจไม่พบเนื้อร้าย
 
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพินิจ แสงสร้อย อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 7 หมู่ที่ 7 ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ อดีตนายก อบต.สบสาย 2 สมัย และมีอาชีพทนายความปัจจุบัน พร้อมเปิดเผยความมหัศจรรย์ ที่เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. 57 ที่ผ่านมา ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการเจ็บป่วยจนถึงขั้นแพทย์ระบุเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ตนได้รักษาตามภูมิชาวบ้านหายขาดจากการดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศ
ทางด้านนายพินิจ เปิดเผยว่า อาการแรกเริ่มจากที่ตนเองรู้สึก เหมือนมีก้อนเนื้อขึ้นที่ลำคอ จนเริ่มขยายใหญ่ขึ้น ระหว่างนั้นคิดว่าจะเลือกใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติและพยายามหายาสมุนไพรมากิน แต่ไม่หาย จนกระทั่งวันที่ 28 ธ.ค. 57 ก้อนเนื้อที่ลำคอแตก รีบเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพร่ โดยแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หลังจากรักษาแผลที่แตกเลือดหยุดไหลได้กลับมาพักรักษาต่อที่บ้าน ทุกคนในครอบครัวต่างช่วยกันพยายามหาหมอเก่งเฉพาะทางด้านมะเร็ง กระทั่งมีคนแนะนำว่ามีหมอที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตนก็ไปรักษา ขณะนั้นหมอระบุว่าว่ามะเร็งที่ลำคอแตกออก และยังมีเลือดไหลออกมาเรื่อยๆ ซึ่งได้ขยายลงไปสู่ปอดกับตับแล้ว ต้องอยู่รอดูอาการต่อไป
นายพินิจเผยต่ออีกว่า หลังจากทราบการวินิจฉัยโรคแล้ว ทำให้ตนกลับบ้านมาด้วยความหมดหวัง และก้อนเนื้อที่ลำคอเริ่มโตขึ้นอีก เหมือนมีกะลามะพร้าวมาค้ำคออยู่ จนกระทั่งนายภัคพงษ์ แสงสร้อย น้องชาย ทำงานสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กรุงเทพฯ แนะนำให้ตนเองลองใช้ใบทุเรียนเทศมาต้มดื่มกิน เผื่อจะหาย ตนเริ่มรู้สึกมีความหวังอีกครั้งรีบไปเสาะหาใบทุเรียนเทศที่จังหวัดลำพูน และนำมาต้มให้เข้มข้น จนน้ำกลายเป็นสีดำ ดื่มทุกวัน วันละ 3 เวลา โดยเริ่มดื่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เมื่อได้ประมาณ 20 วัน ปรากฏว่า เลือดที่ไหลออกมาเริ่มหยุดแห้ง ส่วนก้อนเนื้อที่ลำคอเริ่มยุบลงเรื่อยๆ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 58 ที่ผ่านมา นายพินิจ ได้เดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจมะเร็ง ที่อำเภอแม่สาย หลังจากแพทย์ตรวจวินิจฉัยอีกครั้ง ต้องตกใจพร้อมระบุว่า เชื้อมะเร็งขยายลงไปที่ตับและปอด หายหมด ส่วนที่ลำคอจากมะเร็งระยะ 4 กลับดีขึ้น กลายเป็นเพียงระยะ 1 นอกจากนี้แพทย์ยังระบุอีกว่า ไม่น่าเชื่อที่หายแบบก้าวกระโดดเช่นนี้
ขณะนี้อาการทุกอย่างเกือบจะเป็นปกติมากกว่า 80% สามารถทำงาน ขับรถ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับ 3-4 เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงต้องต้มใบทุเรียนเทศ ดื่มต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายเป็นปกติ สำหรับใบทุเรียนเทศในจังหวัดแพร่นั้น มีที่อำเภอร้องกวาง โดยตนเองยืนยันว่า มะเร็งหายได้จากการดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศ เพราะตั้งแต่ดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศมาก็ไม่ทานยาอย่างอื่นเลย เนื่องจากเกรงว่าตัวยาอาจทำลายสรรพคุณกันได้ นายพินิจ กล่าวปิดท้าย





ที่มา : http://www.lonely-rooyang.com/

ประสบการณ์แมลงสาบเข้าหู หลายคนอาจมีสยอง!!


ประสบการณ์แมลงสาบเข้าหู หลายคนอาจมีสยอง!!

ข่าววันนี้ เจอแบบนี้หลายคนอาจรู้สึกได้ถึงความสยอง!! นี่เป็นเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งที่มีประสบการณ์แมลงสาบเข้าหูที่อาจทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกขนลุก พร้อมกับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีแมลงเข้าหูมาฝากทุกคนดังต่อไปนี้

        เรื่องราวมีอยู่ว่า...ในช่วงกลางดึกของวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ภายในบ้านจู่ๆก็รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างบินเข้าไปในรูหูของเธอแบบไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีเสียงดังแก๊กๆในหู พร้อมกับรู้สึกเจ็บนิดๆ เมื่อตั้งสติได้เธอก็รีบเสิร์ชหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับวิธีกำจัดแมลงออกจากหู แล้วเธอก็พบว่าน้ำมันมะกอกที่ใช้ปรุงอาหารสามารถช่วยได้

        ต่อมาเธอจึงน้ำมันมาหยอดลงที่รูหูจากนั้นก็ทิ้งไว้ประมาณ 5-6 นาที แล้วค่อยๆเอียงหูให้น้ำมันไหลออกมา แต่น่าแปลกใจมากๆที่ไม่มีแมลงหลุดออกมาสักตัวเดียว ทั้งๆที่ในข้อมูลบอกว่าแมลงจะไหลออกมาพร้อมกับน้ำมันมะกอก แต่ทว่าเจ้าแมลงที่ดิ้นไปมาในหูของเธอได้หมดฤทธิ์ลงแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นเธอจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ แล้วบอกว่ามีแมลงอยู่ในหูข้างขวาของเธอ เมื่อแพทย์ส่องกล้องดูก็พบว่ามีแมลงอยู่ในนั้นจริงๆ เพียงแต่ว่ามันกลับนอนอยู่นิ่งๆราวกับว่ามันตายสนิทแล้ว จากนั้นแพทย์จึงใช้เครื่องมือคีบเจ้าแมลงตัวดังกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว...แล้วคุณล่ะมีวิธีจัดการแมลงเข้าหูอย่างไรกันบ้าง? 

ที่มา : 
http://news.thaiza.com/news/312564/

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

เรามักถูกพร่ำสอนเสมอมาให้เรากินอาหารวันละ 3 มื้อ และกินให้ครบทั้ง 5 หมู่ แต่กลับไม่มีใครกล้าที่จะออกมาบอกว่า อาหารชนิดใดบ้างที่เราไม่ควรกิน เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

น้ำอัดลม ยิ่งกินน้ำอัดลมยิ่งป่วยเป็นโรคอ้วน และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนเราป่วยเป็นโรคมะเร็งได้ ทำให้คุณสูญเสียความทรงจำ เป็นโรคทางระบบประสาท และมีริ้วรอยก่อนวัยบนใบหน้า

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

เนื้อสัตว์สำเร็จรูป เนื้อสัตว์พวกนี้หากกินมากเกินขนาดและเป็นประจำ เนื้อสัตว์พวกนี้จะทำให้คุณป่วยเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังทำให้ป่วยเป็นมะเร็ง และเป็นโรคอ้วนได้

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

ขนมหวาน น้ำตาลในขนมจะทำให้ฟันผุ ขนมพวกนี้ยังมีแคลอรี่และไขมันที่สูงจึงจะทำให้ห่วงยางไขมันของคุณหนาขึ้นมากกว่าเดิม เเละเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

ผลไม้กระป๋อง ในผลไม้กระป๋องมีสารให้ความหวานที่เรียกว่าขัณฑสกร ซึ่งเป็นสารอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

ปลาเเซลมอน การวิจัยพบว่า เนื้อปลาแซลมอนอาจมีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง และสารจากยากำจัดศัตรูพืช

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

ข้าวโพดคั่วไมโครเวฟ หากกินเป็นประจำจะทำให้คุณป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจและโรคมะเร็ง

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

เบคอน ถ้าคุณกินเบคอนหกวันต่อสัปดาห์เป็นประจำ คุณก็ยิ่งมีโอกาสป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าคนปกติถึง 40  %

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

นม หากดื่มนมมากเกินไป คุณอาจป่วยเป็นโรคหัวใจ  โรคหลอดเลือดสมองได้

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

โดนัท ส่วนใหญ่มักทำขึ้นจากไขมันทรานส์ น้ำตาล และแป้ง สารพวกนี้จะทำให้คุณป่วยเป็นโรคหัวใจได้

ก่อนตายควรรู้! รายชื่ออาหารใกล้ตัว ยิ่งกินเยอะ ยิ่งตายไว

ที่มา : http://news.boxza.com/view/27235

Saturday, April 25, 2015

ปังมาก !! แก้วหน้าม้า คัมแบ็ค ฮิตจนติดไทยเทรนด์ (เขาว่ากันว่าฮามาก)


ปังมาก !! แก้วหน้าม้า คัมแบ็ค ฮิตจนติดไทยเทรนด์ (เขาว่ากันว่าฮามาก)

ปังมาก !! แก้วหน้าม้า คัมแบ็ค ฮิตจนติดไทยเทรนด์ (เขาว่ากันว่าฮามาก)

             สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้วงการละครจักร ๆ วงศ์ ๆ แล้ว สำหรับละครพื้นบ้าน "แก้วหน้าม้า" เวอร์ชั่น 2558 ดันแฮชแท็ก #แก้วหน้าม้า ฮิตติดไทยเทรนด์ !! 
             นับเป็นรายการช่วงเช้าที่อยู่คู่ช่อง 7 มานานนับสิบปี สำหรับช่วงละครไทยพื้นบ้าน หรือละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ถึงจะกระแสจะไม่หวือหวาแต่ก็ขายได้เรื่อย ๆ แต่ไม่ใช่สำหรับเรื่อง "แก้วหน้าม้า" ที่กำลังออกอากาศอยู่ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ หลังจากได้ทำสถิติเป็นละครพื้นบ้านเรื่องแรกที่ฮิตติดไทยเทรนด์ไป อย่างล่าสุดในวันนี้ (25 เมษายน 2558) ก้ดันขึ้นไปติดแฮชแท็กฮิตอย่างรวดเร็วในช่วงละครกำลังออนแอร์ ใคร ๆ ก็กล่าวขวัญถึงในความฮาแบบที่ต้องเรียกว่าสุดจะมั่นหน้า ของนางแก้วหน้าม้า ถูกอกถูกใจคนดูไปเต็ม ๆ จากตอนเช้าวันหยุดที่ไม่รู้จะดูอะไร ต้องกดมาแช่ไว้ที่ที่ช่องเจ็ดเลย 

ปังมาก !! แก้วหน้าม้า คัมแบ็ค ฮิตจนติดไทยเทรนด์ (เขาว่ากันว่าฮามาก)

             เอาภาพน้องแก้วคนดีมายืนยันให้ดู ว่ามั่นหน้าแบบนี่แหละค่ะ แรงฮิตติดเทรนด์จริง ๆ เข้าตามตำรา "สวยมักนก ตลกมักได้" แถมได้ใจพระเอกไม่พอ ยังได้ใจคนดูด้วย อิอิ  !!

แก้วหน้าม้า 2558

ปังมาก !! แก้วหน้าม้า คัมแบ็ค ฮิตจนติดไทยเทรนด์ (เขาว่ากันว่าฮามาก)


ปังมาก !! แก้วหน้าม้า คัมแบ็ค ฮิตจนติดไทยเทรนด์ (เขาว่ากันว่าฮามาก)

ปังมาก !! แก้วหน้าม้า คัมแบ็ค ฮิตจนติดไทยเทรนด์ (เขาว่ากันว่าฮามาก)

แก้วหน้าม้าเวอร์ชั่นเก่า ปี 2544


ปังมาก !! แก้วหน้าม้า คัมแบ็ค ฮิตจนติดไทยเทรนด์ (เขาว่ากันว่าฮามาก)

ปังมาก !! แก้วหน้าม้า คัมแบ็ค ฮิตจนติดไทยเทรนด์ (เขาว่ากันว่าฮามาก)



ภาพจาก เฟซบุ๊ก เดียร์ ดาริน ดารากานต์ - Dear Darin  ทวิตเตอร์ @Pacharapapon

สยอง !! หนุ่มเวียดนาม ทนปวดหัวมาแรมปี เมื่อไปพบแพทย์ กลับเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด


สยอง!! หนอนตัวอวบอ้วนอาศัยอยู่ในโพรงกะโหลกศีรษะหนุ่มเวียดนาม

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นาย Pham Quang Lanh หนุ่มเวียดนาม วัย 28 ปี ถึงกับออกอาการช็อก! เมื่อพบว่ามีหนอนตัวอวบอ้วนอาศัยอยู่ในโพรงกะโหลกศีรษะของตัวเองนานนับปี หลังจากที่ต้องทนอยู่กับอาการปวดศีรษะมาเป็นปี

        โดยก่อนหน้านี้เขาได้ประสบอุบัติเหตุที่ศีรษะ จนต้องใช้แผ่นไทเทเนียมปิดทับไว้ที่กระโหลก ซึ่งในเวลาต่อมาดูเหมือนว่าแผลจากการผ่าตัดจะเริ่มหายดีแล้วก็ตาม แต่จู่ๆเขาก็เริ่มมีอาการปวดศีรษะ และพบว่ารอยแผลเริ่มบวมและเจ็บแปลกๆ แต่เขากลับตัดสินใจว่าจะไม่ไปพบแพทย์เพราะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล อีกทั้งเขายังค้างชำระค่าผ่าตัดของครั้งล่าสุดอีกด้วย

สยอง!! หนอนตัวอวบอ้วนอาศัยอยู่ในโพรงกะโหลกศีรษะหนุ่มเวียดนาม

        ต่อมาเมื่อญาติๆได้เห็นรอยแผลที่ศีรษะของเขาก็ถึงกับตกใจแบบสุดขีด! โดยพวกเขาพบว่ามีหนอนไต่อยู่ตามบาดแผลจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในกรุงฮานอยเป็นการด่วน เมื่อแพทย์ได้ทำการตรวจแผลที่ศีรษะของเขาก็ทราบว่าแผลเกิดอาการติดเชื้อ มีเนื้อตาย และเกิดหนองเต็มบาดแผล

        เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าสาเหตุที่มีหนอนอยู่ ในนั้น น่าจะมาจากแมลงวันแอบไปไข่ไว้ในบาดแผล จนกระทั่งกลายเป็นหนอนอาศัยอยู่ในบาดแผลของเขา และในเวลาต่อมาแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาหนอนออกจากบาดแผลของเขาเป็นที่เรียบ ร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หนอนเหล่านี้ไม่ได้ทำร้ายเขาแต่เพียงอย่างเดียว แต่มันกลับช่วยชีวิตเขาด้วย เพราะพวกมันช่วยกัดกินเนื้อส่วนที่เน่าเสียและตายไปแล้ว พูดง่ายๆก็คือเจ้าหนอนเหล่านี้กำลังช่วยชีวิตเขาด้วยทางหนึ่งนั่นเอง

ที่มา : http://news.thaiza.com/

ชีวิตเล่นตลก! เมื่อเขาพบว่า “มีพลังวิเศษ” หมุนหัวตัวเองได้ “180 องศา” แต่ช็อคยิ่งกว่า! เมื่อคุณหมอตรวจร่ายกาย (มีคลิป)








ที่มา : http://1mclips.com/cv.5cdcf6f

Friday, April 24, 2015

สุดสยอง! หมอมะกันพบฝาแฝดปีศาจในสมองนักศึกษาป.เอก


สุดสยอง! หมอมะกันพบฝาแฝดปีศาจในสมองนักศึกษาป.เอก

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า Yamini Karanam นักศึกษาปริญญาเอก วัย 26 ปี แห่งมหาวิทยาลัยอินเดียนา (Indiana University) ในสหรัฐอเมริกา ได้รับการวินิจฉัยว่า เธอกำลังป่วยเป็นเนื้องอกที่ต่อมไพเนียล (Pineal tumors) และต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน!!

        แต่หลังจากที่ทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเนื้องอกในสมองของเธอก็ถึงกับตะลึง! เมื่อพบว่าสิ่งที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกนั้น กลับกลายมาเป็นตัวอ่อนของมนุษย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝาแฝดของเธอ เนื่องจากมีการตรวจพบว่าตัวอ่อนของฝาแฝดนั้นมีทั้งกระดูก ผม และฟัน อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน


        หลังจากที่ทราบว่ามีพี่น้องฝาแฝดแอบอาศัยอยู่ในสมองของเธอมานานถึง 26 ปี แน่นอนว่าเรื่องราวดังกล่าวได้สร้างความตกใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก เนื่องจากการค้นพบฝาแฝดในสมองนั้นเป็นสิ่งที่หายากมากๆ ที่สำคัญคือเธอต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการเจ็บป่วยที่ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อช่วงเดือนกันยายนของปีที่แล้ว เธอได้รับผลกระทบจากการมีสิ่งแปลกปลอมในสมองจนถึงขั้นมีปัญหาในเรื่องการมองเห็นและการได้ยิน จนกระทั่งได้รับการผ่าตัดในที่สุด!




 ที่มา : 
http://news.thaiza.com/news/312516/

ถึงกับช็อก! ชายคนนี้อยู่มา 44 ปี แต่เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นผู้หญิง แถมมีทั้งลูกและเมียแล้วด้วย หลังพบสิ่งนี้




 มีรายงานเหตุสุดแปลกทางการแพทย์ เมื่อ นายเฉิน วัย 44 ปี จากมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้ค้นพบว่าตัวเองนั้นเป็นผู้หญิงตั้งแต่กำเนิด แถมยังมีมดลูกและรังไข่ในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงอย่างครบถ้วนเสียด้วย หลังมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการปวดท้อง ใบหน้าและแขนบวม แถมยังปัสสาวะออกมาเป็นเลือด



ทั้งแพทย์ผู้รักษาและตัวนายเฉินเองต่างก็ต้องช็อก เมื่อผลการซีทีแสกนเผยให้เห็นว่านายเฉินนั้นมีมดลูกและรังไข่อยู่ในร่างกาย แพทย์จึงได้ทำการตรวจโครโมโซมเพศซึ่งก็พบว่าคนไข้มีโครโมโซมเพศเป็น XX (โครโมโซมเพศหญิง ถ้าผู้ชายจะเป็น XY) ซึ่งนั้นหมายถึง แท้จริงแล้วนายเฉินนั้นเป็นผู้หญิงโดยกำเนิด และเลือดในปัสสาวะนั้นก็คือประจำเดือนนั่นเอง งานนี้ทำเอาช๊อคกันทั้งโรงพยาบาล


จากการตรวจสอบพบว่า นายเฉินนั้นมีลักษณะของภาวะ CAH (Congenital Adrenal Hyperplasia) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการผิดปกติที่เกิดจากต่อมหมวกไต สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งหญิงและชาย โดยภาวะนี้จะทำให้ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนเพศหญิงลดลง และผลิตฮอร์โมนเพศชายมากกว่า ทำให้มีลักษณะของเพศชายปรากฏภายนอกเด่นชัด โดยแพทย์ยังพบด้วยว่าลักษณะอวัยวะเพศของนายเฉินนั้นแตกต่างจากผู้ชายทั่วๆ ไป แม้นายเฉินจะยืนยันว่าเขาสามารถมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาได้ตามปกติก็ตาม
สำหรับกรณีดังกล่าวนับเป็นกรณีทางการแพทย์ที่หาได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้นแพทย์ก็ชี้ว่าเป็นเรื่องสายเกินไปที่นายเฉินจะเข้ารับการรักษา เพราะการรักษาต้องทำในขณะที่คนไข้มีอายุน้อยเท่านั้น

หาดูได้ยากภาพทารกแรกเกิดที่น่าทึ่ง! จนทำให้คุณต้องรักแม่มากขึ้น !

ทารกแรกเกิด, ทารก, เด็ก, แม่, ลูก, วาไรตี้

ภาพเหตุการณ์จริง การทำคลอดของทารกคนนึงที่อยู่ภายในถุงน้ำคร่ำ จากการทำคลอดของแพทย์ชาวกรีก ที่จะทำให้คุณนั้นรักแม่มากขึ้นอย่างแน่นอน

http://image.ohozaa.com/i/c99/1dbzEg.jpg

http://image.ohozaa.com/i/71b/oM7ffY.jpg

http://image.ohozaa.com/i/dba/1RYtkI.jpg


ตรวจสอบแล้ว! เมื่อเช้าชาวบ้านทอดแห พบพญานาค เจ้าหน้าที่จึงนำมาพิสูจน์ ที่แท้เป็นแบบนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้า ตรวจสอบกรณีชาวบ้านพบวัตถุรูปหล่อโลหะพญานาค ที่บ้านแก่นทราย











วันนี้(๒๓ เม.ย. ๕๘) เวลา ๑๒.๓๐ น. สภ.เมืองร้อยเอ็ด โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.วีระวัฒน์ สระบัว ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด สั่งการให้ ร.ต.ท.สุรพล พลพันธ์ รอง สว.สส.ฯ ปฏิบัติราชการ สภ.เมืองฯ พร้อมพวกเข้าตรวจสอบกรณีชาวบ้านพบวัตถุรูปหล่อโลหะพญานาค ที่บ้านแก่นทราย ม.๑๕ ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับนายสายันต์ จอมคำสิงห์ อายุ ๔๒ ปี ซึ่งเป็นผู้พบเห็นคนแรก และไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ เพื่อนำมาตรวจสอบเบื้องต้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ.ร้อยเอ็ด ผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญพบว่าเป็นชิ้นงานที่ทำขึ้นในสมัยปัจจุบันด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย วัสดุทำด้วยทองเหลืองหรือสำริด ส่วนคราบสนิมสีเขียวเกิดจากการแช่น้ำ จึงได้ทำการตรวจยึดนำส่ง พงส.เพื่อให้เจ้าของนำหลักฐานมาแสดงเพื่อรับคืนต่อไป

ที่มา : http://hot.ohozaa.com/hot-5-15-166982

Ads Inside Post